fbpx
/, Website/ความแตกต่างระหว่าง Homepage, Landing Page และ Sale Page

ความแตกต่างระหว่าง Homepage, Landing Page และ Sale Page

การทำธุรกิจบน Facebook, Instagram หรือ Marketplace ต่าง ๆอย่าง Shopee, Lazada ก็เหมือนการหน้าร้านอยู่ในห้างสรรพสินค้า ที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งยังเต็มไปด้วยคู่แข่งที่ขายของแบบเดียวกับเรา และคาดเดาไม่ได้เลยว่าผู้ให้บริการจะเรียกเก็บค่าเช่าเราเมื่อไหร่

เว็บไซต์จึงเป็นเหมือนทางออกสำหรับธุรกิจที่อยากหลุดจากวงจรความไม่แน่นอนนี้ การมีเว็บไซต์เปรียบเสมือนการมีหน้าร้านของตัว ที่มีข้อดีในการทำการตลาดมากมาย

ข้อดีของการมีเว็บไซต์

  • ปรับแต่งหน้าตาและข้อมูลได้ 100%
  • ติด Tracking Code ต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล เช่น Facebook Pixel, Google Conversion
  • ทำโฆษณาระดับ Conversion วัดผลที่ยอดขาย
  • ดูข้อมูลเชิงลึกด้วยเครื่องมืออย่าง Google Analytics, Facebook Analytics
  • รองรับการซื้อขายแบบ E-Commerce
  • ลูกค้า Search ค้นหาได้ง่าย

แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์ใหม่ ๆ (หรือคนที่สนใจ) อาจจะยังสับสนกับหน้าเว็บประเภทต่าง ๆ ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายความแตกต่างระหว่าง 3 หน้าเว็บดังนี้

1. Homepage

Home Page

Home Page คือหน้าแรกของเว็บไซต์ เป็นหน้าหลักที่ส่วนใหญ่จะให้ข้อมูลโดยรวมของธุรกิจ และมีเมนูเพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถคลิกไปดูส่วนอื่น ๆ ที่สนใจได้ เช่น Home Page ของ adMATTERS คือ https://www.admatter.co/

2. 𝗟𝗮𝗻𝗱𝗶𝗻𝗴 𝗣𝗮𝗴𝗲

Landing Page หมายถึง หน้าเพจหลังจากคนคลิกโฆษณาเข้ามา ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นหน้า Home Page ก็ได้ Landing Page มัก ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์บางอย่างโดยเฉพาะ เช่น ทำโฆษณาโปรโมทสินค้า เมื่อคลิกลิงก์เข้าไปจะเจอ Landing Page ที่อธิบายรายละเอียดสินค้าละเอียดขึ้น

3. 𝗦𝗮𝗹𝗲 𝗣𝗮𝗴𝗲

Sale Page เป็นเหมือน Landing Page หนึ่งนั่นเอง แต่เน้นเรื่องปิดการขายโดยเฉพาะ โดยหน้าเพจจะมีทั้งรายละเอียดสินค้า รีวิว ช่องทางติดต่อและชำระเงิน เรียกได้ว่าจบในหน้าเดียว และสามารถติดตั้ง Pixel เพื่อทำโฆษณาแบบ Conversion และขึ้นอันดับ SEO บน Google ได้ด้วย ในปัจจุบันเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น มีผู้ให้บริการสร้าง Sale Page สำหรับคนที่ยังไม่มีทุนสร้างเว็บไซต์เต็ม

สรุป

แม้การมีเว็บไซต์อาจต้องใช้ทรัพยากรมากกว่าการขายของบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ แต่เป็นสิ่งที่คุ้มค่าแก่การลงทุนแน่นอน เพราะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจออนไลน์ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงการทำโฆษณาเชิงลึกมากขึ้นเช่นการใช้ Website Custom Audience หรือการทำโฆษณาประเภท Conversion และการทำเว็บไซต์ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีผู้ให้บริการที่ให้คุณสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองได้โดยเขียน Code เช่น WordPress, Wix เป็นต้น นอกจากนั้นคุณยังต่อยอดไปยังธุรกิจ E-Commerce ที่ให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ได้อีกด้วย โดยใช้เครื่องมืออย่าง Woo-Commerce, Shopify เป็นต้น

ใช้งาน ADMATTERS คลิก
2020-06-24T13:45:08+07:00มิถุนายน 24, 2563|